การวิเคราะห์ตลาดของแบรนด์ร้านค้าปลีกความงามสามารถดำเนินการได้จากมิติต่อไปนี้:
แนวโน้มอุตสาหกรรมและขนาดตลาด
1. ขนาดตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง: ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดความงามยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความต้องการผลิตภัณฑ์ความงามส่วนบุคคลและระดับไฮเอนด์จากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อย ศักยภาพของตลาดมีมหาศาล
2. การผสานรวมออนไลน์และออฟไลน์ที่เร่งตัวขึ้น: แบรนด์ร้านค้าปลีกความงามกำลังสำรวจรูปแบบการผสานรวมออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การตลาดบนโซเชียลมีเดีย และร้านค้าประสบการณ์ออฟไลน์ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและความสะดวกในการซื้อ
3. การสร้างแบรนด์และการขยายขนาด: การแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้นนำไปสู่แนวโน้มของการสร้างแบรนด์และการพัฒนาขนาดในอุตสาหกรรมร้านค้าความงาม แบรนด์ร้านค้าขนาดใหญ่ได้ขยายส่วนแบ่งการตลาดและเพิ่มความเข้มข้นของอุตสาหกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4. นวัตกรรมและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์: เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค แบรนด์ต่างๆ จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่นวัตกรรมส่วนผสม การอัพเกรดประสิทธิภาพ และแนวโน้มบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
พฤติกรรมผู้บริโภค
1. การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณและการปรับแต่ง: ผู้บริโภคกำลังแสวงหาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และผลิตภัณฑ์ความงามแบบกำหนดเองได้กลายเป็นจุดเติบโตใหม่
2. การเพิ่มขึ้นของกลุ่มส่วนผสม: ผู้บริโภคให้ความสนใจกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่โปร่งใสและเป็นธรรมชาติ
3. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย: Kols (ผู้มีอิทธิพลหลัก), คนดังทางอินเทอร์เน็ต, บทแนะนำความงาม และคำแนะนำผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
4. ประสบการณ์มาก่อน: ร้านค้าออฟไลน์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ เช่น การทดสอบผิว การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล และบริการอื่นๆ เพื่อเพิ่มปฏิสัมพันธ์และความภักดีของลูกค้า
ช่องทางและกลยุทธ์ทางการตลาด
1. เลย์เอาต์แบบ Omni Channel: แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคผ่านหลายช่องทาง เช่น ร้านค้าจริง แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มินิโปรแกรม และโซเชียลมีเดีย สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบวงปิด
2. การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Big Data AI ใช้สำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การใช้การตลาดที่แม่นยำ และคำแนะนำส่วนบุคคล
3. การตลาดเนื้อหา: เพิ่มอิทธิพลของแบรนด์และความเหนียวแน่นของผู้ใช้ผ่านการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง เช่น บทแนะนำความงาม วิดีโอประเมินผลิตภัณฑ์ ฯลฯ
4. ระบบสมาชิกและแผนความภักดี: สร้างระบบสมาชิก มอบการแลกคะแนน ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก ฯลฯ เพื่อเพิ่มความภักดีของลูกค้า
ภูมิทัศน์การแข่งขันและความท้าทาย
1. การแข่งขันระหว่างแบรนด์ต่างประเทศและแบรนด์ท้องถิ่น (แบรนด์คู่แข่ง): แบรนด์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่นที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาด และแบรนด์ท้องถิ่นมีความได้เปรียบในการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น
2. ผลกระทบของแบรนด์ใหม่: แบรนด์เฉพาะกลุ่มและแบรนด์ Dtc (Direct To Consumers) ก่อให้เกิดความท้าทายต่อแบรนด์ร้านค้าแบบดั้งเดิมด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เป็นนวัตกรรมและการทำซ้ำผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว
3. ห่วงโซ่อุปทานและการกำกับดูแลคุณภาพ: การจัดการห่วงโซ่อุปทาน คุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการจัดซื้อทั่วโลก การสร้างความโปร่งใสและความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานได้กลายเป็นประเด็นสำคัญ
โดยสรุป เพื่อให้แบรนด์ร้านค้าปลีกความงามโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง พวกเขาจำเป็นต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างการสร้างแบรนด์ ปรับกลยุทธ์ช่องทางให้เหมาะสม และใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและประสิทธิภาพการดำเนินงาน